วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

เรายิ้มรับความเศร้าได้

เรายิ้มรับความเศร้าได้





แม้ชีวิตจะลำเค็ญ แม้ว่าบางครั้งจะยิ้มได้ยาก
แต่เราต้องพยายาม...
อย่างเช่นเวลาเอ่ยทักทายให้พรกันว่า

"อรุณสวัสดิ์" ก็ต้องเป็น "อรุณสวัสดิ์" อย่างแท้จริง

ไม่นานมานี้มีเพื่อนคนหนึ่งถามฉันว่า
"ดิฉันจะเคี่ยวเข็ญให้ตัวเองยิ้มได้อย่างไร
ในขณะที่โศกเศร้า มันไม่เป็นธรรมชาติเลย"

ฉันตอบว่า
เธอต้องยิ้มรับความเศร้าให้ได้
เพราะเราเป็นมากกว่าความโศกเศร้า

มนุษย์คนหนึ่งเปรียบเสมือนเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีนับล้านๆช่อง
เมื่อเปิดไปช่องพุทธะเราก็เป็นพุทธะ
หากเปิดไปช่องโศกเศร้า เราก็เป็นความโศกเศร้า

ครั้นเมื่อเปิดไปช่องยิ้ม
เราก็กลายเป็นความยิ้มแย้มได้จริงๆ
หาควรปล่อยให้ช่องใดช่องหนึ่งมีอิทธิพลครอบงำไม่

เรามีเมล็ดพันธุ์ที่จะเป็นได้ทุกอย่างอยู่ภายใน
เราต้องยึดกุมสถานการณ์ไว้ในกำมือให้ได้
เพื่อฟื้นอำนาจในตัวเราเองกลับคืนมา

สร้างสมาธิในการทำงาน

สร้างสมาธิในการทำงาน






เคล็ดลับในการสร้างสมาธิในการ ทำงาน

เลือกงานหิน

เลือกงานหินขึ้นมาหนึ่งงาน (ควรเป็นงานที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก่อน) แล้วตัดสินใจว่าจะทำให้เสร็จในรวดเดียว หรือว่าจะจำกัดเวลาเป็นเวลาเท่าไหร่ (เช่น ทำ 30 นาทีแล้วหยุดพัก)

สร้างพื้นที่การทำงาน

ก่อนเริ่มงานกำจัดทุกอย่างที่จะดึงความสนใจจากงานตรงหน้าออกให้หมด เช่น ปิดหน้าจอ ปิดมือถือเสียด้วย

เสียงเตือนตั้งนาฬิกาปลุก

หรือถ้าตั้งใจว่าจะทำไปจนกว่างานนั้นจะเสร็จ ก็พยายามทำสมาธิ อย่าพะวงเรื่องอื่นก่อนถึงกำหนดเวลา

เมื่อโดนขัดจังหวะจากงานอื่น

ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้จดโน้ตไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการทีหลัง

เกิดวอกแว่กอยู่ๆ

ดันอยากเช็คอีเมลขึ้นมา หรืออยากไปทำอย่างอื่นแทน ลองหายใจลึกๆ แล้วตั้งใจใหม่

งานด่วนเข้าแทรก

เกิดมีงานด่วนกว่าเข้ามาจริงๆ เลี่ยงไม่ได้ ก็ควรจะพยายามจดโน้ตไว้ว่าขณะนั้นทำงานมาถึงไหน ตั้งใจจะทำอะไรต่อไปก่อนโดนขัดจังหวะ แล้วจัดเก็บโน้ตนั้นกับงานไว้ด้วยกัน เมื่อกลับมาเริ่มใหม่ภายหลังจะได้ต่อติด

รีแลกซ์ด้วย

อย่าเครียดมากจนเกินไป ถ้ารู้สึกเครียดกับงานตรงหน้ามาก ให้หยุดพัก หายใจลึกๆ ยืดเส้นสายเสียหน่อย หรืออาจจะหยุดพักดื่มกาแฟ อย่าเข้มงวดกับตัวเองเกินไปนัก

ให้รางวัลหลังงานเสร็จหลังงานเสร็จ

ให้รางวัลกับตัวเองด้วยการเช็คอีเมลหรืออ่านบล็อกที่ชอบได้ ใครที่อยากมีสมาธิในการทำงาน ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้

ระวังปอดบวมหน้าฝน

ระวังปอดบวมหน้าฝน






ปอดบวมเป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินหายใจที่พบมากในช่วงหน้าฝน แต่ใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงโรคธรรมดาโรคหนึ่งที่อยู่กับเรานาน แต่อันที่จริงแล้ว ปอดบวมถือเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยในช่วงฤดูฝนไปเป็นจำนวนมาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ประธานชมรมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤติในเด็กแห่งประเทศไทย บอกว่า สภาพอากาศชื้นและเย็น จะช่วยเอื้ออำนวยให้เชื้อโรคต่างๆ มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ที่สำคัญยังพบว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่คอยผสมโรง และฉวยโอกาสจากผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ เยื่อบุโพรงจมูกและลำคอ จะระคายเคืองและถูกทำลาย ทำให้เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว หลุดลงไปที่ปอด และอวัยวะสำคัญอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลให้อาการต่างๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลายเท่า จนอาจจะทำให้เสียชีวิตได้

สาเหตุของโรคปอดบวม

เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญเพราะนอกจากจะก่อให้ เกิดปอดบวมรุนแรงยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ที่สำคัญและก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรงได้ เช่นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือดและหูอักเสบ เป็นต้น

ผู้ที่มีโอกาส เสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดบวม

ได้แก่ เด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ แม้ว่าจะเป็นเด็กที่มีสุขภาพดีก็ตาม และผู้สูงอายุ ทั้งนี้จะยิ่งเสี่ยงสูงขึ้น หากเป็นผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคปอด โรคเบาหวาน และโรคเลือดซิกเคิลเซลล์ และในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ที่ตัดม้ามออก หรือม้ามทำงานไม่ปกติ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น

ในเด็กเล็กซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดบวมนั้น พ่อแม่ควรเฝ้าระวังและป้องกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถบอกกล่าวอาการเจ็บป่วยได้ด้วยตนเอง และบางครั้งมีโอกาสมีปอดบวมแทรกซ้อนได้ อาการสำคัญคือ มีไข้ ไอมาก หายใจเร็วกว่าปกติ หอบหรือหายใจลำบากจนซี่โครงบุ๋ม ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกอาจเป็นปอดบวม ควรรีบพาไปพบแพทย์

การป้องกันคือ


ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ล้างมือบ่อยๆ ปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารก เช่น เด็กเล็กควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้มีภูมิต้านทานจากแม่ส่งผ่านไปลูกทางน้ำนม และการให้วัคซีน ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ หลายชนิด รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม-โรคไอพีดีและวัคซีนไข้หวัดใหญ่

ผู้ชายชอบทำอะไรให้สาวหงุดหงิดใจ

ผู้ชายชอบทำอะไรให้สาวหงุดหงิดใจ




คุณว่า ความคิดของ ผู้ชายกะผู้หญิงเหมือนกันไหม?

ฮั่นแน่ เห็นส่ายหน้าก็แสดงว่า คำตอบคือ จะไปเหมือนกันได้ไง ใช่ม้า



อย่าว่าแต่ต่างเพศจะคิดไม่เหมือนกันเลย แม้แต่ต่างคนก็ยังต่างความคิด มีตัวอย่างให้เห็นเยอะแยะ แต่...แต่ มีผู้ชายบางรายนะท่าน ชอบคิดเอง เออเองบ่อยๆว่า สิ่งที่เขาเพียรพยายามปฏิบัติ กะแฟนสาวทุกวันนี้ เป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยม ไร้เทียมทานเชียวนะ ทั้งที่ความจริงแล้วสาวๆ อาจไม่ชอบการกระทำ ของแฟนเธอไปซะทุกอย่างก็ได้นี่ จึงทำให้ เธอกระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้จะบอกแฟนยังไงดี ว่าพฤติกรรมบางอย่างของเค้าไม่ได้น่ารักอย่างที่เขาคิดซะหน่อย แถมยังทำให้เดี๊ยนรำคาญใจซะด้วยซ้ำ

เอ้า งั้นเรามาเล่าสู่กันฟังดีกว่าว่า มีพฤติกรรมของฝ่ายชายอะไรบ้างน้าที่เขามักคิดเอง เออเองว่าแฟนสาวชอบในสิ่งที่เขาทำแบบนี้กับเธอแน่ๆ แต่ที่แท้ผู้หญิงปลื้มด้วยซะที่ไหน เช่น.....



1. เขาโทรศัพท์ไปหาเธอบ่อยเกินไป รึเปล่าจ๊ะ?

ทำไมการทำเช่นนี้จึงทำให้สาวๆเอือมระอาล่ะ-ก็โหโทรศัพท์ไปหาเธอซะถี่ยิบ เฉลี่ย 1 ชม. ต่อครั้ง หรือ 24 ครั้งต่อ 1 วัน โอ้ยโหยวมันน่าตื้บไหมล่ะ อยากคุยอะไรกันนักหนาเรอะ แถมโทร.ไปบ๊อยบ่อยยังทำให้เห็นว่าฝ่ายชายขาดความมั่นใจในตัวเองนี่หว่า หรือไม่งั้นก็หวาด ระแวงว่าเธอแอบมีกิ๊กมากกว่าอยากรู้จริงๆว่าเธอสบายดีเรอะเปล่าใช่ม้า

ควรทำอะไรแทนล่ะ-ทุกๆ 2-3 ครั้งที่ฝ่ายชายโทร.หาเธอ สังเกตสิว่า เธอเคยโทร.กลับมาไหม? ถ้าเธอโทร.กลับละก็ แสดงว่า เธอยังมีใจให้คุณอยู่ แต่ถ้าคุณโทร.ไปกี่ที กี่หน เธอไม่ยอมรับสาย แถมไม่โทร.กลับมาหาด้วย เอ้แล้วงี้ความพยายามของฝ่ายชายก็เสียเปล่าไปแล้วใช่มะ แต่ไม่เอาน่า อยากให้มองในแง่ดีว่า การที่หล่อนไม่รับสายหรือไม่โทร.กลับ เพราะเธอยุ่งอยู่กะงานหรือติดประชุมบ้างซี เอางี้ โทร.หาวันละครั้งสองครั้งก็พอแล้ว


2. ใช้วิธีร้องไห้ ทำเป็นขี้แงไปได้

ทำไมทำเช่นนี้ถึงย้อนกลับมาทำลายฝ่าย ชายล่ะ-เพราะการเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนเซ้นซิทีฟ หรือจิตใจอ่อนไหวน่ะ แม้จะเก็บคะแนนจากสาวได้ ก็จริง แต่ก็เป็นดาบสองคม เพราะชายที่ทำตัวเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น หรือชอบน้ำตาซึมหวังเรียกความสนใจน่ะ อาจทำให้เธอคิดก็ได้ว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ, ไม่มั่นคงและหวังเป็นที่พึ่งไม่ได้ ชายแบบเนี้ยจะดูแลและปกป้องเธอได้ไง ผู้หญิงก็คิดเหมือนกันนะ

งั้นควรทำอะไรแทน-ถ้าหวังจะใช้ไม้ตายด้วยน้ำตานองหน้าละก็ ควรเก็บไว้ใช้อย่างฉลาดดีกว่า เพราะการเป็นคนเซ้นซิทีฟไม่ใช่ต้องร้องไห้ เสมอไป หนำซ้ำคุณยังโชว์ให้เห็นถึงความเป็นคนโรแมนติกด้วยวิธีอื่นก็ได้ เช่น เวลาไปช็อปปิ้งก็ช่วยเธอหิ้วของ หรือชวนเธอทานข้าวที่บ้านโดยคุณชายจะเป็นพ่อครัวเอง ไม่งั้นก็แอบซื้อของมาให้เป็นการเซอร์ไพรส์สิ รับรองเธอชอบแน่ๆ


3. ฝ่ายชายโชว์ออฟมากเกินไปรึเปล่า?

ทำไมทำเช่นนี้ถึงย้อนกลับมาทำลายฝ่ายชายเองล่ะ-อ้าว จำไม่ได้รึ กฎข้อที่ 1 อย่าทำอะไรให้เธออับอายในที่สาธารณะ เช่น พูดจาเกี้ยวพาราสี แถมมือไม้ อยู่ไม่สุขชอบแต๊ะอั๋งเธอในที่สาธารณะ, ดึงเธอมาจูบ, จุมพิตที่ฝ่ามืออะไรเงี้ย ที่จริงการแสดงความรักแบบนี้ก็น่ารักดีแต่ไม่ควรแสดงออก มากไป เพราะ เขารู้ได้ไงล่ะว่า เธอสนุกด้วยรึเปล่า เกิดเธอไม่สบายใจก็ซวยนะซี

งั้นทำอะไรแทนดีล่ะ-จริงอยู่ที่สาวบางคนชอบให้ฝ่ายชายแสดงความรักกับเธอ ในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย แต่ก่อนที่หนุ่มจะแสดงบทบาทจี๋จ๋าก็ขอให้ดูตาม้าตาเรือมั่ง ไม่ใช่ข้านึกอยากทำอะไรก็ทำ ผู้ชายน่ะไม่อายที่จะแต๊ะอั๋งสาวอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงนี่สิอาจคิดก็ได้ว่า ฉันกำลังถูกลวนลามนี่หว่า


4. งัดวิธีพูดแบบเด็กไร้เดียงสามาใช้ กะว่าทำงี้แล้วจะน่ารัก โอ๊ย น่ารักซะไม่มีอ่ะดิ

ทำไมถึงย้อนกลับมาทำลายฝ่ายชายเองล่ะ-เพราะมันดูดัดจริตและเสแสร้งน่ะซี แหมเล่นดัดเสียง แถมยังทำท่าเป็นเด็กไม่รู้จักโต แล้วน่าพิสมัยตรงไหนฟะ การทำตัวอะโหน่เน่ะยังทำให้สาวบางคนตระหนักขึ้นมาก็ได้ว่า ฉันอยากมีแฟนเป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่เฒ่าทารกซะหน่อย

งั้นควรทำอะไรแทนดี-ถ้าฝ่ายชายรักสนุกและอยากพูดจาเป็นเด็กๆก็ได้ แต่ควรทำ กิริยาแบบนี้เวลาเล่าเรื่องโจ๊กขำขันเถอะนะ ไม่งั้นก็ใช้ตอนที่สาวๆเป็นฝ่ายเริ่มต้นพูดแบบเด็กๆขึ้นมาก่อนก็ได้ แบบว่า เธอเบ๋บี๋มา คุณก็ขี้จุ๊ เบ่เบ๊ เอ้ย เบบี๋กลับละกัน นี่สิถึงจะสมกันหน่อย


5. ฝ่ายชายเจ้ากี้เจ้าการให้สาวทำนู่น ทำนี่ เกินไปอ่ะเปล่า?

ทำไมถึงย้อนกลับมาทำลายฝ่ายชายเองล่ะ-เพราะการที่หนุ่มจุ้นจ้านเลือกหนังให้ดูด้วยกัน หรือบอกให้เธอตัดผมทรงนั้นทรงนี้สิ แล้วลงท้ายด้วยคำว่า เพราะผมชอบ อู้หู ขืนเป็นงี้ผู้หญิงคงอึดอัดใจน่าดู แหมทำอย่างกะเธอตัดสินใจอะไรเองไม่ได้งั้นแหละ

ควรทำอะไรแทน-ถอยหลังออกจากการเป็นคนชอบบงการซะสิ แล้วแสดงให้หล่อนเห็นว่า คุณมีความสามารถในการเลือกร้านอาหาร, หนัง และรายการโทรทัศน์ได้ตรงใจเธอบ่อยๆ อ้อ ควรปล่อยให้เธอตัดสินใจเองบ้างนะ อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งให้มากเกินไปนะเฮีย


6. เขาพูดอยู่นั่นแหละว่า รักเธอบ๊อยบ่อยรึเปล่า?

ทำไมถึงย้อนกลับมาทำลายฝ่ายชายเองล่ะ-เพราะผู้ชายมักคิดว่าการบอกรักหญิงบ่อยๆจะทำให้ เธอเป็นของตายสำหรับเขาน่ะซี แต่ตรงข้ามจ้ะพ่อหนุ่ม ถ้าคุณไม่เลือกเวลาหรือจังหวะจะโคนที่ดีเพื่อจะพูดว่าผมรักคุณละก็ ผู้หญิงก็ดูออกนะว่า คุณพูดส่งเดชไปงั้น ไม่ได้มีความหมายอย่างที่ฝ่ายชายพูดซะหน่อย ใช่ว่าสาวๆจะหลงใหลคำนี้จนไม่ลืมหูลืมตานะยะ


งั้นควรทำอะไรแทน-อย่าพูดคำว่ารักเพื่อประจบประแจงเธอหน่อยเลย แต่ควรพูดเมื่อคุณหมายความตามนั้นจริงๆ คือรักแท้แน่นอนแล้วค่อยพูด อย่าแหกตากันเลย รักไม่รักก็บอกซี.

● หลากหลายข้อคิด .. เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ●

● หลากหลายข้อคิด .. เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ●




ฟ้ามิได้แบ่ง ‘ยอดคน’ กับ ‘คนธรรมดา’ ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอแต่นั้นมิใช่เพราะ ‘ฟ้ากำหนด’ การที่ "ยอดคน"
ปรากฏขึ้นได้เพราะ เขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่จะเป็นยอดคน
................................................................

"อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ทที่ดีมาฝึกฝน
....................…................................

Don't Look Down Yourself.
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญที่ว่าวันนี้เราต้องการเป็นใคร
จงเคารพนับถือในความสามารถของตัวเอง ยกย่องและให้เกียรติตัวเอง
..................................…........................

สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่า
เมื่อเราปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้น ... จงปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ
ลงไปในสมองคำพูดใดๆ ที่เราเคยได้ยินซ้ำๆ ซากๆ เกิน 37 ครั้ง มันจะกลายเป็น
"อุปนิสัย" ของเราทันที
..................................…........................

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกคือ "สิ่งแวดล้อม" อย่าปล่อยให้ความคิดะ
หรือคำพูดของคนบางคนมาตัดสินชีวิตของเรา
ในโลกนี้ไม่มีใครมีอิทธิพลกับตัวเราเอง
นอกจากตัวเราเอง
......................................….....................

ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก และที่สำคัญคือ
‘เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้’ ไม่มีใครเกิดมา ‘ล้มเหลว’ มีแต่ ‘ล้มเลิก’
.........................................

คนฉลาด.. ต้องโง่เป็น คนโง่ไม่เป็น..จะไม่มีทางฉลาด
.........................................

เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้
คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ‘ทางจิต’ ที่ตอกย้ำตัวเองว่า .. ทำไม่ได้
………………………………………………………………………….

แม้แต่ "คิด" ยังไม่กล้าที่จะคิด แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
จงกล้าที่จะเผชิญความล้มเหลว.. ความล้มเหลวคือครูที่ทดสอบตัวเรา
If you want to have success, you have no choice.
.......................................................................

มนุษย์ คือจุดศูนย์กลางของเส้นรอบวงที่ไม่มีขีดจำกัด .. ทำไม?
มนุษย์เหมือนกันจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะไม
มนุษย์แต่ละคนได้รับโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกัน
................................................................

คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอกคนล้มเหลว จะให้โลกภายนอกปรับตัวเข้าหาตัวเอง
Team work is less ‘E-GO’ and more ’WE GROW’
.................................................................

คนสำเร็จระดับผู้บริหาร เป็นผู้นำขององค์กรต่างๆ ในโลกนี้ กว่า 85%
ทั่วโลกล้วนแล้วแต่มิใช่คนเก่ง แต่เป็นคนดีทั้งสิ้น คนเก่ง.. มักจะมี
‘อัตตา’
จะไม่ยอมปรับตัวเข้าหาโลก ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น่
ไม่ยอมรับการพัฒนา..ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ ‘ปกครองคนไม่ได้’ คนเก่ง..ใช้เวลา
2-3 ปี
ก็สอนให้เก่งได้ .. แต่.. คนดีต้องใช้เวลา ‘ชั่วชีวิต’ สอนกัน
คนเก่งมักจะขาดความจงรักภักดี ไม่มีความกตัญญู
......................................................................

"ความรู้" เป็นเพียง "พลังอำนาจแฝง" ชนิดหนึ่งเท่านั้น "ความรู้"
จะกลายเป็น "พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่" ได้ก็ต่อเมื่อมันถูกนำ ไปใช้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
............................……………………………………….

ฟัง..แต่..ไม่ได้ยิน ได้ยิน..แต่..ไม่เข้าใจ เข้าใจ..แต่..ไม่ลึกซึ้งั้นย
ลึกซึ้ง..แต่..ไม่แตกฉาน แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่เป็น !!!
จงนำศักยภาพและอัจฉริยภาพที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญฉลาด
.....................................................................

● ข้ออ้างยอดนิยม ●

● ข้ออ้างยอดนิยม ●







คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆนั้น
มักจะมีข้ออ้างเกิดขึ้นในจิตใจอยู่เสมอ
ข้ออ้างยอดนิยมที่หลายๆคนใช้กันมีดังนี้


1.ข้ออ้างเรื่องสุขภาพ เช่น คิดว่าสุขภาพของตนไม่ดีเท่ากับคนอื่นๆ จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรแข่งกับคนอื่นและปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆอย่างไร้ประโยชน์ ทั้งๆที่ความเจ็บป่วยของร่างกายสามารถบรรเทาเบาบางได้ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งของเราเอง

2.ข้ออ้างเรื่องความฉลาด เช่น คิดว่าตนเองสมองตื้อ จำอะไรไม่ค่อยได้ หรือประเมินความสามารถของตนเองต่ำเกินไปจึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรที่สลับซับซ้อน
ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนสามารถฝึกฝนสมองและความฉลาดปราดเปรื่องให้กับตนเองได้ ด้วยการศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มเติมอยู่เสมอและจำให้ขึ้นใจว่า

"ความสามารถในการคิดมีค่ามากกว่าการท่องจำเหมือนที่ครั้งหนึ่ง ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกเคยถูกคนลองภูมิด้วยคำถามว่า 1 ไมล์ มีกี่ฟุต ? เขาตอบว่า ผมไม่ทราบทำไม่ต้องมานั่งจดจำข้อมูลเหล่านี้ให้รกสมอง ในเมื่อผมสามารถค้นหาคำตอบได้ภายใน 2 นาทีจากหนังสืออ้างอิง"

3.ข้ออ้างเรื่องอายุ เช่น คนที่ชอบคิดว่าคงทำได้ไม่ดีเพราะแก่เกินไป หรือเด็กเกินไป
ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนสามารถทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด

4. เรื่องของโชค วาสนา
คนส่วนใหญ่มักโทษว่าตนไม่มีโชค เลยทำอะไรไม่สำเร็จ
ทั้งๆที่ทุกคนสามารถเอาชนะสิ่งต่างๆได้ด้วยสมองและความขยันหมั่นเพียรของตนเอง

ขอให้ทุกท่านโชคดี มีชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน

ความผิดหวัง บอกเรา...

ความผิดหวัง บอกเรา...






ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความอดทน

เราสามารถเอาชนะความรุ่มร้อน และอ่อนแอได้

ถึงจะยาก แต่ถ้าตั้งใจอย่างจริงจัง วันนี้ยังมีทางแก้ไขได้

ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง การค้นคว้า

เราสามารถเอาชนะความเขลา และเกียจคร้านได้

ถึงจะยาก แต่ถ้าจัดการกับตัวเองได้ วันนี้ยังมีทางสมหวัง

ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความไม่ประมาท

เราสามารถเอาชนะความเผลอเรอ และหลงลืมได้

ถึงจะยาก แต่ถ้าฝึกฝน วันนี้ยังมีทางเป็นไปได้

ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง การช่วยเหลือ

เราสามารถเอาชนะความใจแคบ และมีอคติได้

ถึงจะยาก แต่ถ้าเพาะความเมตตา วันนี้ยังไม่สายเกินไป

ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความตั้งใจจริง

เราสามารถเอาชนะความหวั่นไหว และหวาดกลัวได้

ถึงจะยาก แต่ถ้าเริ่มต้น วันนี้ยังมีทางสำเร็จ

5 อย่า! เมื่อคุณจะนอน

5 อย่า! เมื่อคุณจะนอน




อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ

เพราะขณะที่นาฬิกาทำงานไปเรื่อยๆ นั้น ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาวเลย

อย่าคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับ

รวมถึงอย่าวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ไกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า

เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า
โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้ และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยสิ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ใกล้หรือไกลก็หายห่วง


อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง

ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว กลางคืนคือช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ

อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง

นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย ไม่ต้องกลัวเสียทรง ไม่ต้องกลัวอกแบะ ห่วงชีวิตไว้ก่อนดีกว่า

อย่านอนกับสามีหรือภรรยาของคนอื่น

เพราะคุณอาจจะไม่ได้ตื่นอีกเลย . . . (อันนี้ขำๆ ค่ะ แต่ถ้าแฟนเขารู้คุณๆ อาจขำไม่ออกนะจ๊ะ)


"ตุ๊กตา" กับความเชื่อของชาวแดนปลาดิบ

"ตุ๊กตา" กับความเชื่อของชาวแดนปลาดิบ





ตุ๊กตาไล่ฝน
เป็นตุ๊กตาที่อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วในการ์ตูนเรื่อง "อิกคิวซัง" โดยจะมีลักษณะเป็นตุ๊กตาผ้าสีขาว หัวกลม และเขียนตา จมูก ปาก เมื่อทำตุ๊กตาเสร็จแล้วก็ให้นำไปแขวนไว้ที่ระเบียงหรือชายคาของบ้าน และอธิษฐานให้อากาศวันนี้แจ่มใส ปลอดโปร่ง หลังจากที่คำอธิษฐานเป็นจริงแล้วก็ให้รินเหล้าสาเกใส่ตุ๊กตา และผูกกระดิ่งทองให้อีกด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้คำภาวนาเป็นจริง




ตุ๊กตาฮินะ
เป็นตุ๊กตาที่ชาวอาทิตย์อุทัยจะนำออกมาประดับห้องรับแขกในวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี เพราะเป็นวันเทศกาลตุ๊กตา หรือวันเด็กผู้หญิง ในวันเทศกาลวันนี้คุณย่าหรือคุณแม่จะเข้ามาอบรมสั่งสอนวิธีการเป็นกุลสตรีให้กับเด็กผู้หญิง เพราะเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้พวกเธอโตขึ้นไปเป็นผู้หญิงที่มีกิริยางดงาม และตุ๊กตาที่นำมาเรียงในครั้งนี้จะเรียงตามตำแหน่ง โดย...

ชั้นบนสุด คือ จักรพรรดิ และจักรพรรดินี
ชั้นที่ 2 คือ นางสนองพระโอษฐ์ 3 คน
ชั้นที่ 3 คือ นักดนตรี 5 คน
ชั้นที่ 4 คือ ทหารรับใช้ยืนอยู่ด้านซ้ายขวา และขนมโมจิ ชุดถ้วยชามขนาดเล็กจะอยู่ตรงกลางชั้น
ชั้นที่ 5 คือ ต้นส้มจะอยู่ทางด้านซ้าย และต้นซากุระจะอยู่ทางด้านขวา ส่วนตรงกลางจะเป็นทหารรักษาพระองคื 3 คน
ชั้นที่ 6 คือ เครื่องเรือนต่างๆ
ชั้นที่ล่างสุด คือ เกี้ยวและรถเทียบม้า



ตุ๊กตาดารุมะ
เป็นตุ๊กตาที่ช่วยให้สมความปรารถนา โดย "ดารุมะ" เป็นชื่อเจ้าชายของอินเดียรูปหนึ่งที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธนิกายเซน ซึ่งท่านมีความเพียรพยายามนั่งหันหน้าเข้ากำแพงติดต่อกันเป็นเวลา 8 ปี ท่านจึงบรรลุอรหันต์ เพราะเหตุนี้เองชาวแดนปลาดิบจึงมักจะนิยมเข้าไปอธิษฐานต่อตุ๊กตาและวาดรูปตาหนึ่งข้าง หากสิ่งที่อธิษฐานไว้เป็นจริงพวกเขาก็จะวาดรูปตาอีกข้าง




คำคมดีๆ..จากโน๊ต อุดม

คำคมดีๆ..จากโน๊ต อุดม








วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

5 เคล็ดลับช่วยคุณ "ไม่นอกใจ" แฟน


5 เคล็ดลับช่วยคุณ "ไม่นอกใจ" แฟน






“เมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอ พรุ่งนี้ก็รักเธอ พอใจที่มีเธอ ไม่มีอีกแล้วใครจะมาเข้าใจ ฉันได้ดีอย่างเธอ ตอบแทนเธอ รักเดียวใจเดียว” เพลง “พรุ่งนี้ก็รักเธอ” อีกหนึ่งเพลงความหมายดีๆเกี่ยวกับความรัก ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ปริมาณความรักของคุณไม่เคยลดลงก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังมีอาการเบื่อหน่ายคู่ของคุณอยู่เพราะคบนานแล้ว หมดความแปลกใหม่หรือว่ามีโอกาสพบเจอคนใหม่ๆเข้ามาในชีวิตที่ทำให้รู้สึก หัวใจกระปรี้กระเปร่าแล้วล่ะก็ แต่อยู่ๆต่อมหิริ โอตัปปะของคุณเกิดแสดงอาการสำนึกผิดขึ้นมาแล้วล่ะก็ เอาใจช่วยให้คุณกลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้ โดยการคิดถึงเรื่องเหล่านี้ไว้


นึกถึงความดีของคนรักของคุณ ที่ผ่านๆมาเค้าเคยทำอะไรดีๆให้คุณบ้าง ทั้งห่วงใย ใส่ใจ ดูแล ผ่านสารทุกข์สุกดิบมาด้วยกัน ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงอะไร หรือมีปัญหาอะไร เค้าก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ รวมถึงวันเวลาดีๆที่คุณทั้งสองเคยผ่านมาด้วยกัน แล้วอย่างนี้คุณจะไปหาใครที่ดีเท่ากับเค้าได้อีกล่ะ


ไม่อยากให้คนรักเสียใจ ถ้าคุณรักเค้าต่อให้คุณกับเค้าอาจจะทะเลาะกันบ้างโกรธกันบ้างมันก็เป็น เรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ หรือว่าอาจจะมีช่วงเบื่อๆอยากๆ กันไปบ้าง

แต่ถ้าคุณยังรักเค้า ลองนึกถึงวันที่เค้าจับผิดคุณได้ที่คุณไปมีคนอื่นแล้วล่ะก็ เค้าจะเสียใจขนาดไหน นึกถึงหน้าคนที่คุณรักนั่งร้องไห้เสียใจที่คุณแอบไปมีคนอื่น คุณทนได้เหรอ


นึกถึงความน่าเบื่อที่จะต้องไปเริ่มต้นใหม่ ลองคิดดูเล่นๆนะ ถ้าคุณกับเค้าเลิกกัน คุณไปเจอคนใหม่ที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจแต่คุณจะต้องมาเริ่มต้น แนะนำตัวเอง เล่าประวัติความเป็นมา เรื่องที่ชอบไม่ชอบ แล้วกว่าคุณกับคนใหม่จะคลิ๊กกันแล้วล่ะก็มันไม่ได้ใช้เวลาแค่ วันสองวันหรือแค่จ้องตากันเป็นปลากัดนะ


เสี่ยงว่าคนรักใหม่จะดีอย่างคนปัจจุบันรึเปล่า กว่าจะรู้ใจกัน แบบว่ามองตากันก็เข้าใจ อาหารการกินแบบไหน ดูหนังฟังเพลงแนวไหน แล้วคุณจะแน่ใจได้ไงว่าคนใหม่ของคุณจะชอบหรือเปลี่ยนตัวเองได้เพื่อคุณ คนใหม่อาจจะแค่เด็กกว่าหรือดูสดใสในช่วงแรกๆที่คบกัน แต่คบๆกันไปอาจจะมีแต่เรื่องปวดหัวก็ได้


มีความสุขอยู่แล้วจะทำลายมันไปทำไม ถูก ถ้าทุกวันนี้ความรักของคุณราบรื่น สดชื่นหัวใจ เป็นกำลังใจให้แก่กันละกัน ดูแลซึ่งกันและกัน แล้วคุณจะไปหาคนใหม่หรือแอบมีกิ๊กเพื่ออะไรล่ะ ถ้าเกิดเรื่องราวบานปลายใหญ่โต เสียทั้งคนใหม่สูญทั้งคนเก่า เหลือตัวคนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกา เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นคงบอกได้คำเดียวว่าสมน้ำหน้าตัวเองที่ไปหาเรื่อง ใส่ตัว

1 ทางลัดทานผัก-ผลไม้


1 ทางลัดทานผัก-ผลไม้







‘มุมสุขภาพ-กินดี’ สรรหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาปิดท้ายให้เข้าธีมของสัปดาห์ที่ว่ากันถึง ‘อาการสมองเสื่อม’ ซึ่งสามารถป้องกันด้วย ‘ทับทิม’ ผลไม้มากคุณค่า สีสันสวยงาม โดยคุณพล ตัณฑเสถียร ฟู้ดสไตลิสต์คนดัง สร้างสรรค์เป็นเครื่องดื่มแก้วเก๋ ชื่อ ‘Red Shooter’…

ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณป้องกันอาการหลง ๆ ลืม ๆ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ในส่วนของเมล็ดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตัวการก่อมะเร็ง

นอกจากทับทิมแล้ว เครื่องดื่มแก้วนี้ยังต้องการส่วนผสมเพื่อเพิ่มคุณค่าเข้าไปอีก มีทั้งแตงโม มะนาว ส้ม และสับปะรด ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินซี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และทำให้แผลหายเร็วอีกด้วย

สรุปส่วนผสมที่ต้องเตรียม คือ....

ทับทิม
แตงโม
มะนาว
ส้ม
สับปะรด

ขั้นตอนในการทำ เริ่มจากการแกะเมล็ดทับทิมออกจากผล แล้วใส่รวมกันในผ้าขาวบาง บีบคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนผลไม้ชนิดอื่นๆ นำไปคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้วให้นำไปผสมรวมกัน จากนั้นนำไปเขย่ารวมกับน้ำแข็งก้อนใหญ่เพียงชั่วครู่ ก็จะได้เครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานที่เย็นจับใจ ดื่มได้ทันที.


เหตุผล 10 ข้อที่เพื่อนดีกว่าแฟน

เหตุผล 10 ข้อที่เพื่อนดีกว่าแฟน








ในชีวิตของสาวหลาย ๆ คน มีสาว ๆ ไม่น้อยที่ทุ่มเทเวลาให้กับความรักจนบางครั้งก็ลืมเรื่องอื่นไปซะทุกอย่าง แม้แต่เพื่อนสาวที่รู้ใจกันมาหลายปีดีดัก ก็อาจจะถูกลืมเอาได้ง่าย ๆ ก็แหงล่ะ พอมีความรักเพื่อนก็ตกเป็นรองพ่อหนุ่มของคุณซะอย่างนั้น แต่พอเลิกกันน่ะเหรอ ก็กลับไปขอโทษขอโพยเพื่อนยกใหญ่แล้วแทบจะเอาตัวไปผูกติดกับเพื่อนซี้เลยทีเดียวล่ะ นี่แหละน้า ที่เค้าเรียกว่า ไม่เลิกกับแฟนมาก็ไม่เห็นเพื่อนสำคัญเลย ทั้ง ๆ ที่หากดูดี ๆ แล้ว เพื่อนน่ะมีดีกว่าแฟนเยอะ แต่บางครั้งเราก็ลืมนึกถึงเท่านั้นเอง ว่าแต่เพื่อนดีกว่าแฟนตรงไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ

เพื่อนสามารถพูดคุยกับเราได้เป็นชั่วโมง กับเพื่อนของคุณ คุณสามารถคุยโทรศัพท์กันได้เป็นชั่วโมง แต่สำหรับพ่อตัวดีของคุณน่ะเหรอ แรก ๆ ก็คุยได้นานอยู่หรอก แต่พอหลัง ๆ มาก็เริ่มเจียดเวลาไปให้เพื่อนเขาซะจนหมด แถมยังแสดงออกให้คุณเห็นได้ชัดเจนอีกว่า เค้ามองว่าชีวิตเค้าสำคัญกว่าการให้เวลาคุณมากเลยล่ะ

เพื่อนไม่เคยโกหก ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน กับใคร เพื่อนจริงใจกับคุณเสมอ รวมทั้งเพื่อนสามารถวิจารณ์ข้อบกพร่องของคุณออกมาได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าคุณจะโกรธ ไม่เหมือนคุณแฟนที่จะต้องคอยทำให้คุณรู้สึกดีอยู่ตลอดเวลา สามารถโกหกว่ารักคุณนักหนา ชีวิตขาดคุณไม่ได้เพื่อให้คุณตายใจ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนักหรอก


คุณสามารถเอาเพื่อนไปค้างที่บ้านได้ เพราะเป็นเพศเดียวกัน ไม่มีคำว่าน่าเกลียด ดังนั้นเพื่อนจึงสามารถอยู่กับคุณ ใช้ชีวิตกับคุณและครอบครัวคุณได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร ต่างจากแฟนที่คุณไม่สามารถชวนไปนอนค้างอ้างแรมกับที่บ้านได้ ถ้ายังไม่เปิดตัว

พื่อนเข้าใจอารมณ์คลั่งดาราที่คุณเป็นได้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ต่างจากพ่อทูนหัวของคุณ ที่พอคุณเอ่ยปากชื่นชมกรี๊ดกร๊าดดาราหน่อยไม่ได้ เขาจะมองว่าคุณไร้สาระและบางคนก็ออกอาการหึงหวง ไม่พอใจกันไปเลยทีเดียว

คุณระบายทุก ๆ เรื่องให้เพื่อนฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟนเก่า หนุ่ม ๆ ที่ตามตื๊อ เรื่องความสวยความงาม หรือปัญหาจุกจิกในแบบผู้หญิง ๆ โดยไม่ต้องคิดว่าเธอจะโกรธหรืองอนคุณ และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนก็เข้าใจคุณเสียด้วยสิ แต่กับคุณแฟนน่ะเหรอ น้อยคนเหลือเกินที่จะทนฟังเรื่องพวกนี้ได้

คุณสามารถปรึกษาปัญหารักกับเพื่อนคุณได้ เมื่อไหร่ที่คุณมีปัญหากับพ่อตัวดีของคุณ คุณสามารถหันหน้าคุยกับเพื่อนซี้ได้ตลอดเวลา และเธอก็จะให้คำแนะนำที่ดีกับคุณด้วย

คุณสามารถพูดตลกกับเพื่อนได้โดยไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่คุณพูดจะดูแย่ หรือละลาบละล้วงเค้าเกินไปหรือเปล่า เพราะเพื่อนคุณจะเข้าใจว่าคุณพูดเล่น ต่อให้น่าเกลียดยังไงก็พูดเล่น ไม่เหมือนกับคุณแฟนที่บางครั้งก็คิดจริงจังกับคำพูดล้อเล่นของเราซะอย่างนั้น

คุณสามารถไปชอปปิ้งกับเพื่อนได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะรำคาญ ไม่เหมือนกับพ่อหนุ่มของคุณ ที่การช็อปปิ้งเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยจะชอบนัก และคุณจะรู้สึกเหมือน คุณลากเขามาช็อปปิ้งโดยที่เขาไม่เต็มใจยังไงอย่างนั้น แต่กับเพื่อน ถึงไหนถึงกัน แถมยิ่งเป็นขาช็อปเหมือนกันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คุณแฮปปี้อย่าบอกใคร แต่ระวังเงินในกระเป๋าเกลี้ยงก็แล้วกัน

เพื่อนสามารถวิจารณ์การแต่งตัวของคุณได้อย่างจริงใจ เชยตรงไหน เห่ยตรงไหน ต้องเปลี่ยนเป็นแบบไหน เพื่อนสามารถบอกคุณออกมาได้เป็นข้อ ๆ เลยล่ะ แต่ถ้าไปถามแฟนคุณน่ะเหรอ คุณจะไม่ได้คำแนะนำอะไรเลยนอกจากคำว่า ก็ดีนะ สวยดี ก็โอเคแล้วหนิ แค่นี้จริง ๆ ค่ะ

คุณสามารถใส่เสื้อ ใส่รองเท้า ร่วมกันกับเพื่อนคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีสไตล์ที่เหมือนกันแล้ว คุณจะรู้สึกเหมือนมีเสื้อผ้าให้ใส่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเลยทีเดียว

เห็นมั้ยล่ะว่า.. แค่มีเพื่อนที่จริงใจกับคุณซักคน บางที แฟนก็ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ยิ่งถ้าเป็นแฟนที่ไม่มีเวลาให้กับคุณ แถมยังไม่ได้ทำตัวเป็นแฟนที่ดีเลย แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกเหงามากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น หากคุณกำลังจะกลายเป็นสาวโสด ก็อย่าไปเสียใจหรืออิจฉาคนที่มีแฟนเลยค่ะ ชีวิตโสดสนุกจะตาย.. มีเพื่อนดี ๆ ซักคน มีความสุขมากกว่ามีแฟนตั้งเยอะ

ซีสต์ และเนื้องอกที่เต้านม น่ากลัวไหม

ซีสต์ และเนื้องอกที่เต้านม น่ากลัวไหม






ซีสต์ และเนื้องอกที่เต้านม (โรงพยาบาลพญาไท)
โดย นพ.กิติ จินดาวิจักษณ์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลพญาไท 1

โรคซีสต์ในเต้านมเป็นโรคที่พบค่อนข้างบ่อยในสตรีวัยกลางคน เช่นเดียวกับโรคเนื้องอก (Fibrodenoma) ในสตรีวัยแรกรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งผู้ป่วยมักจะคลำพบได้เองแล้วไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ส่วนใหญ่ซีสต์และเนื้องอกไม่ใช่โรคมะเร็ง แต่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ป่วยอย่างมาก บางครั้งถึงกับนอนไม่หลับ

สาเหตุที่ทำให้เกิดซีสต์

ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด บางครั้งสามารถพบได้ในครอบครัว เข้าใจว่าสาเหตุอาจเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงทำให้เกิดซีสต์ จากนั้นสามารถพัฒนาการให้โตขึ้นได้ โดยของเหลวที่อยู่ในซีสต์มีปริมาณมากขึ้น ทำให้โตและอาจทำให้มีอาการเจ็บเต้านมได้

การรักษา

ซีสต์ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แค่เฝ้าระวังและรับการตรวจเป็นระยะ ๆ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่ถ้ามีขนาดโตขึ้นซึ่งผู้ป่วยสังเกตได้ ให้เข้ารับการรักษาโดยใช้เข็มดูดน้ำซีสต์ออก ถ้าน้ำที่ดูดออกมามีสีเหลือง ก็จะส่งตรวจดูเซลล์ว่ามีความผิดปกติอื่นใดหรือไม่

ส่วนซีสต์ที่อยู่ในเต้านมที่ไม่ได้ทำการรักษา แต่ใช้การติดตามดูเป็นระยะ เมื่อถึงระยะที่หมดประจำเดือนหลาย ๆ ปีอาจจะยุบหายไปได้ ส่วนการรักษาอย่างอื่น คือใช้ยา Danazol แต่ผลข้างเคียงของยาชนิดนี้ จะทำให้เกิดสิว เสียงแหบ และขนขึ้นตามร่างกาย

เนื้องอกที่เต้านม

เป็นเนื้อที่เกิดจากเซลล์ของท่อน้ำนม ซึ่งสามารถเจริญเติบโตโดยอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน จึงมักพบในหญิงสาวเป็นส่วนมาก ตัวเนื้องอกสามารถพัฒนาโตขึ้นหรืออาจหยุดอยู่คงที่ แต่จะไม่พัฒนาเป็นมะเร็งเต้านม ดังนั้นผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้องอกก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทุกราย ยกเว้นกรณีที่มีการพัฒนาโตขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีความกังวลว่าจะเป็นมะเร็ง และขอรับการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้องอกออก

ดังนั้นสตรีที่พบโรคเนื้องอกที่เต้านม จึงไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป แต่ให้ไปรับคำปรึกษาและตรวจโดยละเอียดจากแพทย์ ซึ่งในสตรีที่มีอายุน้อยสามารถตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์ ส่วนสตรีที่สูงวัยจะได้รับการตรวจด้วยเครื่อง Mammogram ร่วมกับอัลตร้าซาวด์ เพื่อให้สามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำ

วันแรกของวันที่เหลือ

วันแรกของวันที่เหลือ






ปรัชญาเต๋า; บอกว่า "คนเราไม่เคยนึกถึงตีนเมื่อรองเท้าไม่กัด"


คนเรามักมองไม่เห็นของดีที่ตนมีอยู่จนเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว


ไม่เห็นคุณค่าของสองแขน จนกระทั่งมันอยู่ในเฝือก


ไม่เห็นคุณค่าของงาน (ที่เราว่าแย่ๆ) จนกระทั่งตกงาน


ไม่เห็นคุณค่าคนรัก (ที่เราว่าไม่เพอร์เฟ็กท์)


จนกระทั่งเธอหรือเขาไปแต่งงานกับคนอื่น


ไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่ (ที่เราว่าขี้บ่น) จนกระทั่งไปงานศพของท่าน


สิ่งที่คนจำนวนมากเลือกทำคือ บ่นว่าตนเองไม่มีความสุข ไม่ประสบความสำเร็จ


ไม่รวย ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้ และเอ่ยประโยคยอดฮิตว่า


"มันไม่แฟร์เลย"


บางที ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม ก่อนที่เราจะบ่น


ลองมองตัวเราเองดูดีๆ เราจะพบว่า เรามีอะไรดีๆ หลายอย่างที่คนอื่นไม่มี


เราสามารถทำ "หนึ่งวันเดียวกัน" ของเราให้มีความหมายได้


ก็ต่อเมื่อเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และใช้วันนี้


วันแรกของวันที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด


เพราะวันแรกของชีวิตที่เหลือนี้ช่างสั้นเหลือเกิน


และเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี "วันแรกของวันที่เหลือ" อยู่อีกสักกี่วัน


เพิ่มพลังใจ...เติมไฟให้ชีวิต

เพิ่มพลังใจ...เติมไฟให้ชีวิต





1. สำหรับสามีที่นอนกรนตอนกลางคืน...
....เพราะเขานอนหลับอยู่ที่บ้านกับเรา และไม่ได้ไปค้างที่อื่นน่ะสิ (คิดอย่างนี้จะทำให้เราทนฟังเสียงกรนไปได้อีกนานเลย)



2. สำหรับลูกสาวที่บ่น บ่น เพราะต้องช่วยคุณแม่ล้างจาน
...เพราะนั่นหมายถึงว่า เธอน่ะอยู่บ้านและไม่ได้อยู่ตามถนน



3. สำหรับเงินภาษีที่ต้องเสีย
...เพราะนั่นหมายถึงว่า ฉันยังมีงานทำอยู่



4. สำหรับความรกและยุ่งเหยิง หลังจากงานปาร์ตี้
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีเพื่อนๆ มากมาย



5. สำหรับเสื้อผ้าที่คับไปหน่อย
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีพอจะกิน (อาจจะมากเกินไปนะ อิอิ)



6. สำหรับเงาที่ตามฉันตลอดเวลา ที่ฉันทำงาน
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันได้มีโอกาสอยู่กลางแสงแดดบ้าง



7. สำหรับพื้นบ้านและหน้าต่าง ที่ต้องเช็ดถูทำความสะอาด
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีบ้าน



8. สำหรับเสียงต่อต้านและคัดค้านต่อรัฐบาล
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีสิทธิ์ที่จะพูดและแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย



9. สำหรับที่จอดรถที่สุดท้ายที่อยู่ไกลโข
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีแรงที่จะเดินด้วยเท้า และยังโชคดีที่มีรถขับด้วย




10. สำหรับเสียงดังจากข้างบ้าน
...เพราะนั่นหมายความว่า หูฉันยังดีอยู่




11. สำหรับผ้ากองโตที่จะต้องซักและรีด
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันมีเสื้อผ้าที่จะใส่มากมาย



12. สำหรับความเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า
...เพราะนั่นหมายความว่า ฉันได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ได้ทำงานหนักมาทั้งวัน




13. สำหรับนาฬิกาปลุกตอนเช้า
...เพราะนั้นหมายความว่า ฉันยังมีชีวิตอยู่


10 เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้คอมฯ



10 เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้คอมฯ



อันดับ10 : Optical เม้าส์เสีย
เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อย สำหรับผู้ใช้งาน Optical เม้าส์ ซึ่งเป็นเม้าส์ที่ใช้แสงเลเซอร์ในการตรวจสอบการใช้งาน สาเหตุที่ทำให้การทำงานมีปัญหา หรือใช้เม้าส์ไม่คล่อง นั่นคือ การใช้แผ่นรองเม้าส์ที่มีลายการ์ตูน หรือมีลวดลายมากเกินขึ้น ทำให้แสงเลเซอร์ที่ใช้ในการตรวจสอบผิดพลาด ทางแก้ไขก็คือ ให้เลิกการใช้งานแผ่นลองเม้าส์ไปเลย

อันดับ9 : Format ฮาร์ดดิสก์ ทำให้เครื่องเสียเร็ว
โดยปกติแล้ว การ Format ฮาร์ดดิสก์ เป็นการจัดเรียงข้อมูลใหม่ แน่นอนช่วงการ Format ฮาร์ดดิสก์ย่อมทำงานหนัก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนัก (และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีใครทำบ่อยๆ) ดังนั้น การจะ Format ฮาร์ดดิสก์ เพื่อติดตั้ง Windows ใหม่ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และรับรองว่า หลัง Format แล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณ จะทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อซื้อเครื่องคอมฯ ใหม่เลยทีเดียว




อันดับ8 : คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คราคาแพงกว่าตั้งโต๊ะ
ถ้าเป็นสมัยก่อน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จะมีราคาแพงกว่าคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ถึง 2-3 เท่าตัว แต่ปัจุจบัน ความนิยมในการใช้งานเปลี่ยนไป ความต้องการมีจำนวนมากขึ้น ทำให้มีผู้ผลิตจำนวนมาก เปลี่ยนมาผลิตคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คมากขึ้น ทำให้ราคาในปัจจุบันใกล้เคียงกันแล้ว สำหรับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและตั้งโต๊ะ บางร่นอาจถูกกว่าด้วยซ้ำไป


อันดับ7 : ซื้อโปรแกรมแบบรวมมิตร ถูกกว่า
คุณทราบหรือไม่ว่า โปรแกรมแบบรวมมิตร ที่หนึ่งแผ่น มีหลากหลายโปรแกรม และราคาก็อยู่ในหลักแค่ร้อยบาท ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมที่ผิดกฏหมาย





อันดับ6 : จู่ๆ เครื่องคอมฯ ก็ทำงานช้าปกติ สงสัยใกล้เสีย
หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าเครื่องมีปัญหาจาก ฮาร์ดแวร์ ซึ่งความเป็นจริง อาจเป็นไปได้ แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากไวรัส แทบทั้งสิ้น ไม่เชื่อลองรันตรวจสอบไวรัสจากโปรแกรม antivirus ในเครื่องคอมฯ ของคุณดู



อันดับ5 : เปิด-ปิด เครื่องคอมฯ ทำให้เครื่องพังเร็ว
ความเป็นจริงแล้ว การเปิด-ปิด เครื่องคอมพิวเตอร์ อาจมีส่วนทำให้คอมฯ มีปัญหาได้บ้าง ถ้าการเปิด-ปิด เกิดไฟช๊อตระหว่างขั้นตอนการเปิด-ปิด (วิธีที่ถูกต้องห้ามทำการเปิด-ปิดแบบทันที ควรเว้นระยะไว้สักครู่ก่อน เปิด-ปิด)







อันดับ4 : โปรแกรมแอนตี้ไวรัส (Antivirus) ติดตั้งแล้ว จะไม่ติดไวรัส
โปรแกรมนี้ไม่ฟรีแน่นอน แต่ต้องการของฟรี ก็มีให้เลือกมากมาย (ค้นหาได้จากเว็บไอที-ไกด์ ของเรา) และทีสำคัญหลังติดตั้งโปรแกรม Antivirus แล้ว หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่า เครื่องคอมฯ ของเราจะไม่ติดไวรัสแล้ว ซึ่งความเป็นจริง ยังต้องมีขั้นตอนการใช้งาน การอัปเดท และอื่นๆ อีกมาก อย่าเพิ่งเข้าใจผิดน่ะครับ



อันดับ3 : ติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ ทำให้เครื่องคอมฯ ทำงานเร็วขึ้น
ความคิดนี้โดยส่วนใหญ่ เป็นความคิดไม่ถูกต้อง เพราะโปรแกรมที่มีการพัฒนาใหม่ๆ (ส่วนใหญ่) โดยเฉพาะ Microsoft Windows / Office ต้องการคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สูงขึ้นเสมอ ดังนั้น ถ้าติดตั้งในเครื่องคอมฯ สเปคเดิมๆ รับรอง ทำงานช้าลงแน่นอน






อันดับ2 : โปรแกรม Microsoft Office เป็นของฟรี
โปรแกรมนี้ก็เช่นเดียวกัน Microsoft Office เป็นโปรแกรมรวม ซึ่งประกอบด้วย Microsoft Word, Excel, PowerPoint และโปรแกรมอื่นๆ แล้วแต่รุ่นย่อยของ Microsoft Office โปรแกรมเหล่านี้ ไม่ใช่ของฟรี และราคาก็ค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการ Windows (ถ้าต้องการของฟรี สามารถใช้โปรแกรมประเภท Office ที่เป็นฟรีแวร์ได้เช่นกัน)


อันดับ1 : ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นของฟรี
หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่า เมื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว เราจะได้ระบบปฏิบัติการ Windows แถมมาด้วย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว คอมพิวเตอร์ที่มีแบรนด์ดังๆ มักแถมมาให้ตอนซื้อเครื่องคอมฯ (แต่ลึกๆ แล้ว เขาได้บวกไปแล้วกับตัวเครื่อง) สำหรับราคาของระบบปฏิบัติการ Windows อยู่ในราคาหลายพันบาท










ข้อคิดดีๆ ของชาวจีน

ข้อคิดดีๆ ของชาวจีน














วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลักษณะของ skype

ลักษณะของ skype
Skype สามารถทำการ โทรได้ทั้ง PC to PC และ PC to Phone ดังนั้นการใช้งานก็จะแตกต่างกันไป รวมถึงค่าใช้จ่าย ในการ โทรแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไปด้วย




การโทรผ่าน Skype แบบ PC to PC
-เป็นบริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายในการโทร
-ต้องมีคอมพิวเตอร์ทั้งฝั่งต้นทางและปลายทาง
-ต้อง ออนไลน์ อินเตอร์เนท ทั้งต้นทางและปลายทาง



การโทรผ่าน Skype แบบ PC to Phone (Skype Out)
-เสียค่าบริการตามอัตราบริการ SkypeOut ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง
-มีคอมพิวเตอร์แค่เพียงต้นทาง
-ออนไลน์ อินเตอร์เนท แค่ต้นทางที่จะทำการโทรเท่านั้น

Skype คืออะไร

Skype คืออะไร


Skype เป็นโปรแกรมการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ท โดยสามารถทำการโทรระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ถึง เครื่องคอมพิวเตอร์(PC to PC) หรือ การโทรจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ ถึง โทรศัพท์บ้านทั่วไป (PC to Phone) รวมทั้งการโทรไปยังปลายทางที่เป็นโทรศัพท์มือถือด้วยเช่นกัน ดังนั้นการโทรศัพท์ ผ่านโปรแกรม Skype สิ่งที่จำเป็นต้องมีได้แก่


1.เครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป็น PC หรือ Notebook ก็ได้
2.อินเตอร์เน็ท โดยจะเป็นแบบ Dial up 56K หรือ High Speed ADSL ก็ได้
3.อุปกรณ์ที่ใช้ในการคุยโทรศัพท์เช่น USB Phone เป็นต้น

Twitter คืออะไร


Twitter คืออะไร

ทวิตเตอร์ (Twitter) คือเว็บไซต์ที่ให้บริการ blog สั้น หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Micro-Blog ซึ่งสามารถให้ผู้ใช้ส่งข้อความของตนเอง ให้เพื่อน ๆ ที่ติดตาม twitter ของเราอยู่อ่านได้ และเราเองก็สามารถอ่านข้อความของเพื่อน หรือคนที่เราติดตามเค้าอยู่ได้ ซึ่ง twitter ก็ถือได้ว่าเป็นเว็บไซต์ประเภท social Media ด้วยเช่นกัน

ในรูปแบบของ twitter นี้ ที่เรียกว่าเป็น blog สั้นก็เพราะว่า twitter ให้เขียนข้อความได้ครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งข้อความนี้เมื่อเขียนแล้วจะไปแสดงอยู่ในหน้า profile ของผู้เขียนนั่นเอง และจะทำการส่งข้อความนี้ไปยังสมาชิกที่ติดตามผู้เขียนคนนั้นอยู่ (follower) โดยอัตโนมัติ

สาเหตุสำคัญที่ twitter นั้นฮิตไปทั่วโลก ก็เพราะว่ามีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เขียน สามารถอัพเดทหรือเขียนข้อความ (Tweet) จากที่ไหนก็ได้ ตั้งแต่หน้าเว็บไซต์ บนโปรแกรมที่ติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งบนโทรศัพท์มือถือ จึงทำให้ผู้เขียน twitter นั้นสามารถอัพเดทได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

ภัยจากอินเทอร์เน็ต

ภัยจากอินเทอร์เน็ต
ภัยข้อแรก ภัยจากการแชท การแชท หมายถึง การพูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ต เป็นภัยที่พบง่ายและบ่อยที่สุด บางครั้งเราอาจกำลังสนทนาอยู่กับคนที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากเราอยู่ก็ได้ ถ้าเราเผลอให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือนัดเจอคนที่รู้จักกันทางเน็ต เราอาจตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ได้ คนเหล่านี้เล่นแชท เพราะเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน , มีปมด้อย , อยากหาแฟน , เพ้อฝันว่าอาจจะได้เจอสิ่งดีๆ ในเนต ,โรคจิต , แสวงหาผลประโยชน์จากคนที่ไม่รู้ , หาความรู้โดยไม่อยากเสียเงิน หรือเล่นไปงั้นๆ แหละ เพื่อนบอกให้ลอง


ภัยข้อที่ 2 ภัยจากการเล่นเกมส์ออนไลน์ เป็นเหมือนกับยาเสพติดดีๆ นี่เอง เพราะเมื่อเล่นแล้วทำให้ไม่อยากหยุดเล่น อยากทำคะแนนให้ได้เยอะๆ ได้ level ที่สูงขึ้น อยากอวด อยากเอาชนะคนอื่น ปัจจุบันเกมส์ออนไลน์มีมากมาย บางเกมส์ส่อไปในทางลามกอนาจาร มีการนำเสนอภาพที่รุนแรง บางเกมส์มีการขายของที่อยู่ในเกมส์ หลายคนเคยตกเป็นเหยื่อเพราะโดนหลอกซื้อของที่อยู่ในเกมส์ก็มี นักเรียนต้องรู้จักข่มใจตนเอง เลือกเล่นเฉพาะเกมที่สร้างสรรค์ กำหนดเวลาเล่นให้เป็น ไม่ใช่เล่นเอาเป็นเอาตาย สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบั่นทอนทำให้เสียสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงเสียการเรียนด้วย


ภัยข้อสุดท้าย ภัยจากการท่องเวบ ภัยจากการท่องเว็บอันดับ 1 คือ การโฆษณาหลอกลวงขายสินค้า เช่น สั่งซื้อของจ่ายเงินแล้วแต่ไม่ได้ของก็มี 2. เว็บดาวน์โหลด ถ้าดาวน์โหลดสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะมีไวรัสแถมมาด้วย หรือบางเว็บแค่คลิกเข้าไปก็โดนไวรัสแล้ว 3. เว็บโป๊ อนาจาร 4. เว็บบอร์ด กระดานถามตอบ อาจมีการโพสต์ข้อความชวนเชื่อ โกหกบ้าง จริงบ้าง ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพเพื่อกลั่นแกล้งกันก็มี 4. ภัยจากอีเมล์ก็มีไวรัส หรือภาพโป๊ ฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ไร้สาระ ถ้ามีเมล์ที่เราไม่รู้จักเข้า

วิธีเพิ่ม gadget ( รายชื่อลิงค์ )





วิธีเพิ่ม gadget ( รายชื่อลิงค์ )


1. คลิกที่เมนูปรับตกเเต่ง


2. คลิกที่ gadget


3. จะได้หน้าต่างแบบนี้ขึ้นให้คลิกที่รายชื่อลิงค์


4. จะได้หน้าต่างนี้


5. ใส่ URL ของเว็บที่เราต้องการลิงค์และตั้งชื่อเว็บไซต์แล้วกดบันทึก


6. จะได้หน้าต่างแบบเป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอนการเพิ่ม gadget





เราสามารถเข้าไปเพิ่มลิงค์ที่น่าสนใจได้โดยกดที่เมนูปรับตกแต่งจากนั้นจะเห็นคำว่าแก้ไขตรงรายชื่อลิงค์แล้วคลิกเข้าไป จากนั้นก็ใ URL เข้าไปได้ไม่จำกัด แล้วอย่าลืมกดบันทึกทุกครั้ง


10 ทิปการใช้งาน Twitter





10 ทิปการใช้งาน Twitter



ถ้าคุณอยากเข้าสังคมออนไลน์แห่งนี้ แต่ยังรู้สึกขัดๆ เขินๆ และก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ลองดู 10 ทิปที่เราแนะนำในบทความนี้

1. ย่อ URL ให้สั้นลง
ใน การใช้งานทวิตเตอร์ เรื่องหนึ่งที่คุณหนีไม่พ้นก็คือการแชร์ลิงก์ แต่เนื่องจากในแต่ละทวีต คุณเขียนข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ถ้า URL ที่คุณต้องการแชร์ยาวเหยียด ใช้บริการย่อ URL ให้สั้นลง เพื่อที่คุณจะได้มีพื้นที่สำหรับเขียนข้อความมากขึ้น ที่เราชอบก็อย่างเช่น tinyurl.com, is.gd, ow.ly และ bit.ly

2. RT = Retweet
ถ้า คุณพบทวีตที่ถูกใจ และต้องการก๊อบปี้ไปแปะ (paste) ไว้บนไซต์ของตัวเอง หรือที่ไหนก็ตาม คุณสามารถทำได้ไม่มีปัญหา ตราบใดที่คุณให้เครดิตกับผู้เขียนข้อความในทวีตนั้น ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว จะใช้การใส่คำว่า RT แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของเจ้าของทวีต เช่นถ้าคุณนำทวีตของเราไปใช้ คุณก็ควรใส่คำว่า RT @PCMag ไว้น่าทวีตนั้น

3. ส่งเมสเซจส่วนตัว
ด้วย ฟังก์ชัน Direct Messages ของทวิตเตอร์ คุณสามารถส่งข้อความส่วนตัวที่มีขนาดไม่เกิน 140 ตัวอักษรไปยังผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ได้ ลักษณะจะคล้ายกับอีเมล์ฉบับย่อ แต่มีข้อแม้ว่าคนที่คุณจะส่งข้อความถึงได้นั้น ต้องเป็นยูสเซอร์ที่ตามดู (follow) คุณเท่านั้น

4. ใช้สัญลักษณ์ @
ถ้า คุณต้องการอ้างถึง ให้เครดิต หรืออยากติดต่อกับผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นๆ ให้ใส่สัญลักษณ์ @แล้วตามด้วยชื่อทวิตเตอร์ของคนๆ นั้นไว้ในทวีตของคุณ ข้อความในส่วนดังกล่าว (@ยูสเซอร์เนม) ก็จะกลายเป็นลิงก์นำไปยังทวิตเตอร์ของยูสเซอร์รายที่ว่า และที่สำคัญคือ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนั้นสามารถเห็นข้อความในทวีตนี้ของคุณด้วย ในทางตรงกันข้าม คุณก็สามารถเช็กได้ว่ามีใครอ้างถึงคุณในทวีตของพวกเขาบ้าง ด้วยการคลิกที่ @ยูสเซอร์เนมของคุณเองจากกรอบทางขวามือในหน้า Home

5. หาเพื่อนของคุณ
ถ้า คุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นสังคมออนไลน์แห่งนี้อย่างไร ลองใช้ Search.twitter.com หาทวิตเตอร์ของเพื่อนคุณ ทวิตเตอร์ของคนดัง หรือของบริษัทที่คุณสนใจ เพื่อที่คุณจะได้ตามดู หรือถ้าคุณมีหัวข้อที่สนใจอยู่แล้ว ก็สามารถใช้หัวข้อนั้นเป็นคีย์เวิร์ดในการค้นหาได้เลย

6. เพิ่มโอกาสในการถูกพบให้กับทวีตของคุณ
ถ้า เรื่องที่คุณกำลังจะเขียนเป็นหัวข้อซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจ (เช่นโอบาม่า ซีรีส์เรื่อง Lost หรืออื่นๆ) การใส่เครื่องหมาย # ไว้ข้างหน้าหัวข้อนั้น (เช่น #Lost) จะทำให้คนอื่นๆ พบทวีตของคุณได้ง่ายขึ้น และบางทีเขาเหล่านั้นก็อาจตามดูคุณต่อ ยกตัวอย่างเช่นกรณีของเครื่องบินตกที่แม่น้ำฮัดสัน #flight1549 ได้กลายมาเป็นแท็กยอดฮิต เช่นเดียวกับเป็นคีย์เวิร์ดที่ผู้คนจำนวนมากใช้ในการเสิร์ช

7. แชร์ภาพถ่าย
ผู้ คนส่วนใหญ่ชอบที่จะแชร์ภาพของตัวเองให้กับคนทั้งโลกได้ดู และบางคนก็โด่งดังจากการเรื่องนี้ อย่างเช่นกรณีของจานิส คลุมส์ ซึ่งใช้ TwitPic โพสต์ภาพของเที่ยวบิน 1549 ไว้บนทวิตเตอร์ของเขาได้ก่อนใครเพื่อน เช่นเดียวกันคุณสามารถใช้ TwitPic รวมถึงอีกหลายๆ บริการที่ลักษณะคล้ายกันนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการอัพโหลดและโพสต์ภาพไว้บนทวิตเตอร์

8. ทวีตจากมือถือ
ทวิตเตอร์ ให้คุณส่งข้อความตัวอักษรจากโทรศัพท์มือถือเพื่ออัพเดตทวีตของคุณ เช่นเดียวกับที่รับทวีตใหม่ของคนอื่นๆ ซึ่งคุณตามดูอยู่ได้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปที่ Settings คลิกที่แท็บ Devices แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณก่อน ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้ไปสักพักแล้วคุณรู้สึกว่าการรับทวีตของคนอื่นๆ บนโทรศัพท์มือถือ สร้างความรำคาญให้กับคุณมากกว่าการได้อัพเดตเรื่องราว คุณก็สามารถเข้ามายกเลิกได้จากในแท็บเดียวกันนี้

9. หาเดสก์ทอปไคลเอ็นต์ดีๆ มาใช้
ด้วย เดสก์ทอปไคลเอ็นต์อย่าง TweetDeck, Twhirl หรือ TwitterFox คุณสามารถรับทวีตและจัดให้เป็นหมวดหมู่หรือเป็นระบบระเบียบสำหรับการตามอ่าน ได้ ไคลเอ็นต์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากถ้าคุณตามดูทวีตของหลายคน และมีการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ รวมไปถึงใช้ฟังก์ชัน direct messages อยู่บ่อยๆ

10. ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์
ถ้า คุณมีแบล็กเบอร์รี่ ไอโฟน หรือสมาร์ตโฟนอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือทำงานบนเครือข่าย 3G เราอยากแนะนำให้ดาวน์โหลดโมบายไคลเอ็นต์ของทวิตเตอร์มาใช้ เพราะจะช่วยให้คุณทำอะไรได้มากกว่าแค่ส่งข้อความที่เป็นเท็กซ์ ไคลเอ็นต์ที่น่าสนใจก็จะมีอย่างเช่น Twitterific, TwitterBerry, PocketTweets และ Twidroid เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีสมัคร Gmail



วิธีสมัคร Gmail

1.เข้าเว็บไซท์ www.gmail.com
2.คลิก ปุ่ม “สร้างบัญชี”







จะปรากฏหน้าต่างสร้างบัญชี ตามรูปที่ 2 และ 3



พิมพ์รายละเอียดตามที่ปรากฎให้ครบ (เป็นภาษาอังกฤษนะ)ตามนี้เลย

1. First name : ชื่อ ใส่ชื่อเราลงไป
2. Last name : นามสกุล ใส่นามสกุลเราลงไป
3. Desird Login Name ชื่อการเข้าสู่ระบบที่ต้องการ
4. Check availability! คลิกเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใช้แล้วหรือยัง
5. Choos a password รหัสผ่าน





6. Re-enter a password กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
7. Security Question เลือกคำถามที่ต้องการ
8. Answer คำตอบ
9. Secondary email เมล์สำรองเพื่อแจ้งปัญหา
10. Location เลือกเป็น ราชอาณาจักรไทย





11. Word Verification พิมพ์คำตามที่ปรากฎในรูป
12. คลิก I accept Create my account (ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน)


เหตุผลที่ควรใช้ Gmail

10 เหตุผลที่ควรใช้ Gmail


1. ให้พื้นที่ฟรี ถึง 2.8 GB (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)
พื้นที่เยอะขนาดนี้ คุณสามารถเก็บอีเมลได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องลบทิ้งอีกแล้ว

2. รองรับการใช้งานภาษาไทย
เปลี่ยนภาษาบนหน้าจอเป็นอังกฤษหรือไทยตามใจคุณ และแน่นอน Gmail รองรับการส่งข้อความด้วยภาษาไทย

3. หาอีเมลกี่ครั้งก็เจอ
ด้วยระบบเสิร์ซอัจฉริยะของ Google คุณก็หาอีเมลหรือแชท ได้เร็วเพียงแค่พริบตา

4. หมดกังวลเรื่องสแปม
Gmail บล็อกสแปมก่อนที่มันจะเข้าอินบ็อกของคุณ


5. คุยกับเพื่อนได้ในทันที
โปรแกรมแชทและอีเมลที่ติดตั้งมาพร้อมกัน ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอสลับไปมาให้ยุ่งยากอีกแล้ว


6. เช็คเมลผ่านมือถือ
อ่าน Gmail บนมือถือได้ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ URL http://gmail.com/app บนมือถือของคุณ

7. จัดอีเมลเรื่องเดียวกันให้เป็นหนึ่งเดียว
อีเมลเรื่องเดียวกันที่มีการโต้ตอบไปมาหลายครั้งจะถูกจัดเก็บไว้ด้วยกันโดยอัตโนมัติ คุณจึงหาและอ่านอีเมลทั้งหมดได้ทันที

8.เซฟอัตโนมัติ
Gmail ช่วยเซฟและบันทึกร่างอีเมลที่กำลังเขียนอยู่โดยอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องเขียนอีเมลค้างไว้แล้วหายไปก่อนส่งออก

9. Labels
จัดระเบียบให้อีเมลของคุณแบบง่ายๆ ด้วยการแยกเก็บไว้ใน Label


10. เปลี่ยนมาใช้ Gmail ง่ายแค่คลิ๊ก
โอนถ่ายข้อมูลติดต่อทั้งหมดจาก Outlook, Hotmail, Yahoo! และอีเมลอื่นๆ เข้ามาใช้ใน Gmail ได้อย่างง่ายดาย